
ที่เที่ยวในฮอกไกโด สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปในฮอกไกโดสำหรับคนรักธรรมชาติ
ที่เที่ยวในฮอกไกโด หากคิดถึงญี่ปุ่น จุดหมายปลายทางยอดนิยมที่เรามักนึกถึงก็คือโตเกียวและโอซาก้า แต่คุณรู้หรือไม่ว่า นอกเหนือจากเมืองเหล่านี้แล้ว ญี่ปุ่นมีสิ่งอื่นที่น่าสนใจอีกมากมาย เพราะญี่ปุ่นยังเต็มไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ นอกจากภูเขาไฟฟูจิแล้ว ยังมี เมืองฮอกไกโด ที่สวยงามมาก
1. บึงน้ำสีฟ้าชิโรงาเนะ ที่เที่ยวในฮอกไกโด
คุณอาจจะเคยเห็นบึงน้ำมาหลายที่ แต่รับรองว่าไม่มีที่ไหนที่เป็นสีฟ้าขนาดนี้ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม และมีผู้คนไปเที่ยวมากที่สุดในฮอกไกโด ด้วยบึงน้ำสีไพลินอันสวยสะดุดตาซึ่งเกิดจากการปะทุของภูเขาไฟโทคาจิเมื่อปี 1989 สาเหตุที่ทำให้น้ำในบ่อมีสีฟ้าสวยงาม ก็เพราะมีแร่ธาตุอลูมิเนียมไฮดรอกไซด์ผสมอยู่ เมื่อสะท้อนกับแสงแดดจะทำให้มองเห็นเป็นสีฟ้าสดใส
บึงน้ำแห่งนี้มีเฉดสีฟ้าแตกต่างกันไปในแต่ละฤดู ทำให้ทั้งคนพื้นที่และคนรักธรรมชาติต่างพากันแวะมาที่นี่เพื่อชื่นชมทิวทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล แต่ห้ามว่ายน้ำหรือเข้าใกล้บึงน้ำเป็นอันขาดเนื่องจากน้ำมีพิษ เมื่อมาเยือนสถานที่ท่องเที่ยวในฮอกไกโดแห่งนี้ กิจกรรมที่เหมาะที่สุดคือการชื่นชมทัศนียภาพอันเหนือจริงและลั่นชัตเตอร์เก็บภาพความทรงจำสวยๆ
ซึ่งติดอันดับ 1 ใน 5 น้ำตกที่สวยที่สุดใน เมืองฮอกไกโด ตั้งอยู่ห่างจากบึงสีฟ้าประมาณ 3 กิโลเมตร สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยมีลักษณะพิเศษคือ สายน้ำที่ไหลซึมลงมาจากชั้นหินริมผา จะเป็นสีขาวราวกับหนวดเครา โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวจะสวยเป็นพิเศษ เพราะถูกปกคลุมด้วยหิมะโดยรอบ และมีการเปิดไฟประดับในตอนกลางคืน ซึ่งเมื่อสะท้อนแสงก็จะยิ่งส่องประกายความงาม
การเดินทาง : จากสถานี Biei โดยสารรถบัส Dohoku Bus ลงที่ป้าย Shirogane Blue Pond Entrance ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
พาสรถไฟที่เกี่ยวข้อง : Hokkaido Rail Pass ใช้เดินทางด้วยรถไฟบริษัท JR ในภูมิภาคฮอกไกโดตามที่กำหนด ระยะเวลาใช้งานมีให้เลือก 5 วัน หรือ 7 วันต่อเนื่อง
2. น้ำตกชิราฮิเกะ
ขับรถจากบึงน้ำสีฟ้าชิโรงาเนะเพียงสี่นาทีก็ถึงน้ำตกชิราฮิเกะแล้ว น้ำตกแห่งนี้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่น่าทึ่งอีกแห่งหนึ่งที่ห้ามพลาดเมื่อคุณมาเที่ยวฮอกไกโด คนพื้นที่เรียกที่นี่ว่า “น้ำตกหนวดขาว” เนื่องจากม่านน้ำตกที่ไหลลงมามีสีขาวราวหิมะ ที่แห่งนี้มีทิวทัศน์ที่สวยงามจนน่าประทับใจ น้ำตกแห่งนี้จะสวยยิ่งขึ้นในช่วงฤดูหนาวเนื่องจากด้านบนของน้ำตกจะปกคลุมไปด้วยต้นไม้ที่มีน้ำแข็งเกาะและน้ำแข็งย้อย
น้ำตกชิราฮิเกะเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามติดอันดับ 1 ใน 5 ของฮอกไกโดเลยก็ว่าได้ ซึ่งมีความสูงอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 600 เมตร ตั้งอยู่ในเมืองบิเอะ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอาซาฮิคาวะ ภาพม่านน้ำสีขาวที่ไหลตกกระทบโขดหินน้อยใหญ่ที่ระยะความสูงราวๆ 30 เมตรบนหน้าผานี้ถูกเรียกกันอีกชื่อว่า “น้ำตกหนวดเคราขาว” ซึ่งก็คือคำว่า “ชิราฮิเกะ” ในภาษาญี่ปุ่น โดยจุดเริ่มต้นของน้ำตกชิราฮิเกะนี้ไหลมาจากน้ำใต้ดินในเทือกเขาโทคาจิ พื้นที่ของชิโรกาเนะออนเซ็นผ่านช่องหินในหุบเขาและพุ่งออกมาคล้ายเคราสีขาวนั่นเอง รวมสถานที่เที่ยวในฮอกไกโดแบบธรรมชาติ
3. ทะเลสาบโทยะ
จะมีสักกี่ครั้งกันที่คุณจะได้มีโอกาสเห็นความงดงามตามธรรมชาติของทะเลสาบโทยะ ในอุทยานแห่งชาติชิกตสึ-โทยะ ทะเลสาบโทยะรอให้คุณไปสัมผัส เป็นที่ทราบกันดีว่าทะเลสาบนี้จะไม่กลายเป็นน้ำแข็ง แม้ในฤดูหนาวที่หนาวจัด คุณสามารถสนุกกับกิจกรรมมากมายพร้อมกับระหว่างดื่มด่ำกับทิวทัศน์อันงดงาม กิจกรรมยอดนิยมได้แก่ ตกปลา เดินป่า และแช่น้ำพุร้อนธรรมชาติ ใกล้ๆ กันคุณจะเห็นภูเขาไฟอุสุ ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่โดยปะทุครั้งล่าสุดเมื่อปี 2000 รวมสถานที่เที่ยวในฮอกไกโดแบบธรรมชาติ
และบริเวณตรงกลางของทะเลสาบโทยะ ก็ยังมีเกาะ Nakajima ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถแวะไปเที่ยวได้ด้วยเช่นกัน ยกเว้นช่วงฤดูหนาว นอกจากนั้นแล้วที่ทะเลสาบโทยะ ยังมีการจัดแสดงดอกไม้ไฟยาวนานที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น โดนจะจัดแสดงตั้งแต่ ช่วงปลายเดือนเมษายน จนถึง ปลายเดือนตุลาคม ทุกคืนเวลา 20.45 น. ซึ่งนักท่องเที่ยวยังสามารถล่องเรือชมความงามของดอกไม้ไฟได้อีกด้วย
4. เขื่อนโฮเฮเคียว
หากคุณเดินทางในช่วงฤดูใบไม้ร่วง หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปในฮอกไกโด ก็คือเขื่อนโฮเฮเคียว ที่ติดหนึ่งใน “100 อันดับเขื่อนริมทะเลสาบ” ซึ่งจัดลำดับโดยหน่วยงานด้านป่าไม้ เขื่อนแห่งนี้มีภูมิทัศน์ธรรมชาติที่ประกอบไปทะเลสาบสีฟ้า ภูเขาที่เขียวชอุ่ม และป่าที่เต็มไปด้วยต้นเมเปิ้ล หากคุณมาเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ร่วง คุณจะถูกโอบล้อมด้วยใบไม้สีแดง สีส้ม และสีเหลือง ประสบการณ์อันสงบสวยงามอย่างแท้จริงที่รอให้คุณมาสัมผัส
เขื่อนโฮเฮเคียวสร้างเมื่อปี 1965 แล้วเสร็จเมื่อปี 1972 โดยใช้น้ำในแม่น้ำโทโยฮิระมากักเก็บและผลิตกระแสไฟฟ้า และใช้พื้นที่ทะเลสาบโจซังเป็นที่กักเก็บน้ำ ซึ่งสามารถจุน้ำได้มาก เทียบเท่ากับซัปโปโรโดมถึง 30 แห่งเลยทีเดียว นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นอีกหนึ่งจุดชมใบไม้เปลื่ยนสี ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดฮอกไกโดอีกด้วย เนื่องจากทางเขื่อนโฮเฮเคียว ต้องการรักษาความสงบและความสวยงามของธรรมชาติเอาไว้ ทางการจึงไม่อนุญาตให้เรานำรถยนต์เข้าไป ที่บริเวณด้านบนเขื่อน แต่เราสามารถเลือกใช้บริการรถไฟฟ้า หรือจะเลือกเดินชมธรรมชาติก็ได้ รวมสถานที่เที่ยวในฮอกไกโดแบบธรรมชาติ
5. รีสอร์ตสกีซัปโปโรโคะกุไซ เมืองซัปโปโร Sapporo
ซัปโปโรเป็นเมืองที่มีที่ให้คุณได้เที่ยวมากมาย หากคุณต้องการสัมผัสความตื่นเต้นขณะสำรวจธรรมชาติ คุณต้องห้ามพลาดรีสอร์ตสกีซัปโปโรโคะกุไซ สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในฮอกไกโดแห่งนี้เหมาะที่สุดสำหรับการเล่นสกีลงเนินเขา ดื่มโกโก้ร้อน และนั่งกระเช้ารถไฟที่น่าตื่นเต้น ซึ่งคุณจะได้เห็นทิวทัศน์มุมสูงของท่าเรือโอตารุ ศาลเจ้าโจซังเค และสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่จะทำให้คุณตะลึง
นี่คือสกีรีสอร์ท เมืองฮอกไกโด ขนาดใหญ่ที่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับหิมะคุณภาพที่ดีที่สุดบนเกาะฮอกไกโด ที่ซึ่งเหมาะกับนักสกีทุกคนไม่ว่าจะเป็นระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับชำนาญ มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ถูกออกแบบมาเพื่อผู้เล่นต่างชาติให้เล่นสกีอย่างราบรื่นโดยปราศจากลิฟต์หรือกอนโดลา และคุณจะได้พบกับทัศนียภาพอันงดงามของเมืองโอตารุและทะเลญี่ปุ่นอย่างสุดลูกหูลูกตาในวันที่แดดสดใส สำหรับผู้ที่ไม่เล่นสกีหรือสโนว์บอร์ด เราแนะนำให้คุณขึ้นกอนโดลาเพื่อค้นพบทัศนีภาพที่สวยงามแห่งนี้
สำหรับเด็กๆ เรายังมีสโนว์พาร์คที่พวกเขาสามารถเพลิดเพลินไปกับการเล่นบนห่วงยางในบริเวณที่ปลอดภัย โดยสกีรีสอร์ทแห่งนี้เดินทางจากตัวเมืองซัปโปโร 90 นาทีเพียงแค่โดยสารรถบัสท้องถิ่นที่วิ่งทุกวันตลอดฤดูกาล! นอกจากนี้คุณยังสามารถมาลานสกีตัวเปล่าเพราะเรามีบริการเช่าชุดและอุปกรณ์สกีให้อีกด้วยโดยไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้า ซึ่งมีอุปกรณ์ให้เช่าที่หลากหลายที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด!!
6. แหลมคามูอิ
หากคุณอยู่ที่แหลมคามูอิ แคปชั่นของคุณต้องเป็น “ทะเลก็เหมือนกับเธอ ยิ่งเจอ ก็ยิ่งตกหลุมรัก” เพราะสถานที่แห่งนี้มีแหลมโขดหินอันเป็นเอกลักษณ์ที่ยื่นออกสู่กลางทะเล เดินสัมผัสบรรยากาศในเส้นทางเดินชาเรนกะอันคดเคี้ยวเป็นเวลา 20 นาที ดื่มด่ำกับทัศนียภาพอันน่าทึ่งของทะเลญี่ปุ่นและเส้นขอบฟ้าจรดน้ำ ระหว่างทาง คุณยังจะได้พบกับดอกเอโซคานโซ ดอกไม้ประจำถิ่นฮอกไกโดที่จะบานสะพรั่งอย่างเต็มที่ในช่วงฤดูร้อน บอกเลยว่าแหลมคามูอิ เป็นที่เที่ยวฮอกไกโดที่คุณควรไปลองให้ได้สักครั้ง
ไฮไลท์สำคัญของที่นี่คือเส้นทางตามธรรมชาติที่ให้เดินลัดเลาะไปตามสันเขาเป็นระยะทางกว่า 700 เมตร ทางเดินเท้าค่อนข้างสะดวกสบาย พลางสัมผัสกับอากาศสดชื่นจากลมทะเล และรับชมความงามของดอกไม้ตามธรรมชาติที่ขึ้นอยู่ข้างทาง รวมสถานที่เที่ยวในฮอกไกโดแบบธรรมชาติ
ระหว่างทางจะมีที่นั่งให้หยุดพักเป็นระยะ หรืออาจแวะถ่ายภาพวิวทะเลสีฟ้าใสก่อนแล้วค่อยเดินต่อไปจนถึงจุดชมวิวที่อยู่บริเวณปลายแหลม เมื่อเดินไปจะพบกับประตูต้องห้ามสำหรับหญิงสาวในอดีตที่เป็นสัญลักษณ์บอกว่าใกล้ถึงบริเวณปลายแหลมแล้ว เมื่อถึงปลายแหลมคามุอิ ทัศนียภาพที่มองเห็นอยู่เบื้องหน้าคือวิวทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาลที่สวยงามจนลืมหายใจ และไม่ไกลออกไปจากปลายแหลมจะมองเห็นกลุ่มหินเรียงเป็นแนวยาวคล้ายกับทางเดิน
ตรงบริเวณก่อนเข้าทางเดินเท้าไปยังปลายแหลมจะมีลานจอดรถ ตลอดจนร้านค้าและห้องน้ำสำหรับอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของฮอกไกโดที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมานักเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่รถไฟยังไปไม่ถึง
7. อุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซัง
อุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซังได้รับสมญานามว่า “สนามเด็กเล่นของพระเจ้า” ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกเลยเพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่น่าทึ่งที่สุดแห่งหนึ่งในฮอกไกโด และการเดินทางไปก็ไม่ใช่เรื่องยากด้วยป่าอันเขียวขจีที่เป็นบ้านของเหล่าน้องหมีสีน้ำตาลและฝูงกวาง นอกจากนี้ ยังรายล้อมไปด้วยภูเขาโทมุรุชิและภูเขาอิชิคาริที่สูงตระหง่าน ให้คุณเพลิดเพลินกับการปีนเขาที่ท้าทาย อีกทั้งยังเป็นสถานที่ในญี่ปุ่นที่ฤดูใบไม้ร่วงมาเยือนก่อนใคร ระหว่างทริปเที่ยวฮอกไกโดของคุณ ทำไมไม่แวะเติมความสดชื่นที่นี่ก่อนล่ะ
อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซังใน จ.ฮอกไกโดเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ประกอบไปด้วยภูเขาสูงจำนวนมากและธรรมชาติท่ามกลางหุบเขาที่อุดมสมบูรณ์ เป็นจุดที่เหมาะแก่การเดินป่าปีนเขาทั้งในช่วงฤดูใบไม้ผลิดและฤดูร้อน ชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และสัมผัสกับหิมะในฤดูหนาว
8. ฟาร์มโทมิตะ
ฟาร์มมินาโตะน่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ชวนฝันที่สุดในฮอกไกโด ในทุ่งลาเวนเดอร์ตามธรรมชาติขนาดห้าเฮกตาร์ คุณและคนสำคัญ (หรือเพื่อน) จะได้เดินเล่นอย่างสนุกสนาน หรือจะใช้ช่วงเวลาโรแมนติกด้วยกันก็ได้ สำรวจทุ่งลาเวนเดอร์ดั้งเดิมที่มีภูเขาไฟโทคาจิปะเป็นฉากหลัง ป่าลาเวนเดอร์เสริมด้วยเนินสวยงามจับตา และทุ่งซากิวากีที่มีลาเวนเดอร์กว่าสี่สายพันธุ์ นอกจากลาเวนเดอร์สีม่วงแล้ว คุณยังจะได้ชมดอกไฮยาซินธ์และดอกป๊อปปี้สีแดงที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนหลุดไปอยู่ในโลกแห่งดอกไม้อันสดใส
ซึ่งที่นี่เคยมีขนาดพื้นที่ถึง 1,400 ไร่ในปี 1970 ทุ่งลาเวนเดอร์จะบานสะพรั่งสวยงามในช่วงฤดูร้อน หรือประมาณ กลางเดือนกรกฎาคม – กลางเดือนสิงหาคมของทุกปี ฟาร์มแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองซัปโปโร ห่างไปราว 120 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งฟาร์มนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของทุ่งลาเวนเดอร์ และดอกไม้หลากสีที่โด่งดัง เป็นสถานที่ติด Top 10 ที่ผู้มาเยือนฮอกไกโดห้ามพลาดกันเลยทีเดียว
9. สวนสัตว์อาซาฮิยามะ
คนรักสัตว์จะหลงรักอาณาจักรสัตว์นานาชนิดของญี่ปุ่นที่ สวนสัตว์เปิดนอกเมืองอาซาฮิยามะแห่งนี้ไม่เหมือนใคร เพราะคุณจะได้อยู่ท่ามกลางเหล่าสัตว์น้อยใหญ่มากมาย สวนสัตว์มีโดมแก้วด้านในกรงที่ให้คุณได้ใกล้ชิดกับหมีขั้วโลกและหมาป่า (ที่ปัจจุบันสูญพันธุ์ไปแล้ว) นอกจากนี้ ยังมีพาเหรดเพนกวินสำหรับคนรักเพนกวิน ที่จะได้เห็นพวกมันเดินขบวนกันในทุกฤดูหนาว
10. สวนลิงจิโกคุดานิ
สถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติแห่งสุดท้ายในฮอกไกโดแห่งนี้ค่อนข้างแปลกเพราะมีทั้งลิงหิมะและบ่อน้ำพุร้อน จังหวัดนางาโนะมีสวนลิงจิโกคุดานิอันเลื่องชื่อ คุณจะได้พบกับลิงกังญี่ปุ่นกว่า 160 ตัวที่รวมตัวกันแช่ออนเซ็น (บ่อน้ำพุร้อนตามธรรมชาติ)